Image SEO เป็นคำใหม่ในพื้นที่ของอีคอมเมิร์ซ พฤติกรรมการค้นหาของผู้ใช้ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การค้นหาด้วยเสียง หรือ Voice search การค้นหาแบบ Visual Search กับ Image Search จะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ หากไม่ต้องการให้ธุระกิจของคุณถูกเพิกเฉยจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการทำ SEO แบบรูปภาพด้วย โดยเฉพาะกับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
ความแตกต่างระหว่าง Visual Search กับ Image Search
เมื่อทำการค้นหาด้วย Visual Search ระบบจะใช้ภาพสำหรับการค้นหา ขณะนี้ AI มีซอฟต์แวร์วิเคราะห์ภาพที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งจะวิเคราะห์ส่วนประกอบของภาพอย่างละเอียด จากผลการค้นหารูปภาพที่อ้างถึงวัตถุหรือคุณสมบัติที่ตรวจพบก่อนหน้านี้จะถูกนำเสนอเป็นผลการค้นหา
ในทางกลับกัน Image Search จะถูกวางอยู่บนรูปภาพของ Google ผ่านการค้นหารูปภาพผ่านการป้อนข้อความเป็นต้น ผู้ใช้จำนวนมากขึ้นกำลังมองหาเนื้อหาผ่านการค้นหาจาก Image Search รูปภาพสินค้า สถิติกราฟิกหรือตารางข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ข้อเท็จจริงหรือบริการสามารถพบได้ง่ายกว่าการค้นหาข้อความทั่วไป เนื่องจากเราสามารถจับภาพได้ง่ายขึ้น เราจึงสแกนหาเนื้อหาที่น่าสนใจได้เร็วกว่าการค้นหาด้วยข้อความ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขั้นตอนวิธีและโครงสร้างข้อมูลของภาพ ที่จะถูกส่งเป็นผลการค้นหา หากข้อมูลรูปภาพมีความสมบูรณ์และมีโครงสร้างที่ดี การอันดับของคุณก็จะได้รับการปรับปรุงด้วย
วิธีเพิ่มประสิทธิภาพให้กับรูปภาพ
- ตั้งชื่อที่มีความหมายเหมาะกับรูปภาพนั้น ๆ ที่มักปรากฏใน URL ของรูปภาพซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำ SEO
- ตั้งค่า alt tags ให้รูปภาพ ข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูล หรือ Matadata ควรมีคีย์เวิร์ด ที่ช่วย
สนับสนุนเครื่องมือค้นหาในการตรวจจับเนื้อหาของรูปภาพ - สร้าง XML sitemaps ให้รูปภาพ สิ่งนี้สามารถนำไปสู่การสร้างดัชนีของเครื่องมือค้นหาได้เร็วขึ้น สำหรับร้านค้าออนไลน์แล้ว ควรปรับปรุงแผนผังเว็บไซต์อย่างสม่ำเสมอ
- ให้ข้อมูลเกี่ยวกับรูปภาพ
- ภาพควรมีคุณภาพดีเยี่ยม
- แก้ไขภาพของคุณด้วยซอฟต์แวร์บีบอัดทีมีประสิทธิภาพ (เพื่อย่นเวลาในการโหลด)
- แนะนำให้ใช้รูปขนาด 16: 9 หรือ 4: 3
- ใส่ Backlink
- การใส่ลายน้ำและใส่ลิงค์บนรูปภาพทำให้ภาพมีเอกลักษณ์เป็นที่รู้จักและบ่งบอกถึงลิขสิทธิ์ของคุณ
- ใส่ขนาดของรูปภาพในโค้ด HTML จะทำให้การแสดงผลจะเร็วกว่าซึ่งจะหมายถึงเวลาในการโหลดที่สั้นลง
- จัดเก็บภาพของคุณตามลำดับ การจัดระเบียบพื้นที่จัดเก็บรูปภาพให้สอดคล้องกับสถาปัตยกรรมของเว็บไซต์อาจเป็นประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับร้านค้าออนไลน์และเว็บไซต์ขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตามควรหลีกเลี่ยงการสร้างโฟลเดอร์ย่อยจำนวนมากเกินไปเพื่อให้ URL ของรูปภาพจะถูกเก็บไว้ในระยะสั้นและเป็นที่รู้จัก
โดยทั่วไปแล้ว ภาพที่มีเอกลักษณ์และภาพที่สื่อความหมายจะถูกลิงค์บ่อยขึ้น รูปภาพที่ปรับแต่ง โดยการทำ SEO ก็จะปรากฏขึ้นอย่างสม่ำเสมอเช่นกัน