แพลตฟอร์ม B2C ในจีน แพลตฟอร์มที่จะช่วยให้ยอดขายของคุณเพิ่มมากขึ้น

คุณรู้ไหมว่า อะไรที่ช่วยทำยอดขายให้กับทำธุกิจในช่วงเวลาที่ยากลำบากแบบนี้ ?

มีเหตุลผลอะไรไหมว่าทำไมคุณควรจะเลือกเว็บไซต์ B2C จากจีน ?

คนจีนส่วนใหญ่มักชอบสั่งสินค้าที่มาจากตะวันตก เพราะพวกเขาคิดว่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ เช่น เสื้อผ้า อาหาร คอมพิวเตอร์ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ต่าง ๆ เครื่องประดับ เป็นต้น ส่วนใหญ่นิยมการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์เป็นอย่างมาก เทียบเป็นเปอร์เซ็นคือมากกว่าคนแถบตะวันตกด้วยซ้ำ ด้วยราคาที่จับต้องได้ อีกทั้งการบริการลูกค้าที่ดีเยี่ยมไร้ที่ติและยังเสนอทางเลือกการชำระเงินหลากหลายช่องทางในเวลาจัดส่งที่รวดเร็วทันใจ 

ในประเทศจีนจำนวนผู้ซื้อขายออนไลน์ แพลตฟอร์ม e-commerce รวมถึงแอพพลิเคชั่น นั้นมีมากกว่าชาติฝั่งตะวันตกอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไม e-commerce ในจีนถึงมีการซื้อขายมากกว่าในยุโรปและอเมริกา มีการบันทึกว่ามีการซื้อขายออนไลน์จากเว็บไซต์ของห้างสรรพสินค้ามากถึง 90% เมื่อเทียบกับเว็บไซต์อื่น ๆ ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตบนมือถือในประเทศจีนนั้นหากเทียบเป็นเศษส่วนจะเท่ากับ 1 ใน 5 ของจำนวนผู้ใช้ทั่วโลก (ในปัจจุบันนี้มีผู้ใช้มากกว่า 903 ล้านคน) และส่วนใหญ่คนเหล่านี้จะซื้อขายผ่านโทรศัพท์มือถือเป็นอันดับต้นๆของโลก

เศรษฐกิจ B2C ในประเทศจีนแสดงให้เห็นถึงผลกำไร กำลังการซื้อของลูกค้า เเละประสิทธิภาพในการทำงานที่สูงขึ้น

3 อันดับ การตลาดดิจิตอลในประเทศจีน 

1. TMALL

โดยมีเจ้าของคือ Alibaba นั่นเอง Tmall เป็นเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์อันดับ 1 จาก ที่มีส่วนแบ่งการตลาดมากถึง 60% จากการขายผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงและผลิตภัณฑ์หรูหรา Tmall ให้ความสำคัญในการนำเสนอแบรนด์สินค้าเป็นหลักและเปิดโอกาศให้กับแบนด์ต่างชาติเปิดธุรกิจในประเทศจีนได้ Tmall ยังสร้างความเป็นไปได้ในการขายสินค้านอกฤดูกาล และสามารถสร้างแคมเปญโฆษณาในพื้นที่ออนไลน์ เช่น โซเซียลมีเดีย หรือ Live stream เป็นต้น

2. JD.com

เว็บไซต์อันดับสองที่มีจำนวนผู้ใช้งานมากที่สุดรองลงมาคือ JingDong หรือ JD.com ของบริษัท Tencent เจ้าของ WeChat และคู่เเข่งคือ Alibaba ที่มีผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงและหรูหราเช่นเดียวกับ Tmall เว็บไซต์นี้มีชื่อเสียงเรื่องความปลอดภัยในด้านการปลอมแปลงบัญชีที่เข้มงวด ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าจะได้รับนั้นถูกต้องและปลอดภัย แตกต่างกับ Tmall เว็บไซต์ JD ถือเป็นผู้นำด้านอิเล็กทรอนิกส์เเละเครื่องใช้ภายในบ้าน ผู้ขายแทบจะไม่ต้องรับผิดชอบมากมายในการดำเนินการร้านค้าออนไลน์เลย

3. TaoBao

TaoBao เป็นเครือข่ายเดียวกันกับบริษัทของ Alibaba กับผู้ใช้งานวันละ 60 ล้านคน เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่มีการจับจ่ายซื้อขายกันอย่างคึกคักมากที่สุดในโลก และผลิตภัณฑ์มากกว่า 80 ล้านชิ้นกำลังอยู่ในช่วงลดราคา ผู้ให้บริการมีมากถึง 10 ล้านคน ที่ส่วนใหญ่เป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัว และธุรกิจขนาดเล็ก

ตลาดค้าขายออนไลน์ของจีนนั้นค่อนข้างมีความเกี่ยวข้องกันกับธุรกิจแบบ B2C ยกตัวอย่าง เช่น Suning, Vipshop, TikTok, Xiaohongshu และอีกมากมาย แพลตฟอร์มเหล่านี้สามารถสื่อสารแบรนด์ของคุณไปสู่ลูกค้าในอนาคตของคุณอีกด้วย

เคล็ดลับในการเปิดร้านค้าออนไลน์

หากว่าคุณต้องการเปิดธุรกิจในเว็บไซต์ B2C ของจีน เราอยากแบ่งปันเคล็ดลับบางส่วนที่อาจจะเป็นประโยช์นต่อธุรกิจของคุณ

1. ตรวจสอบกฏหมายและกฎระเบียบ ตรวจสอบกฏหมาย ข้อจำกัด เพื่อให้การทำธุรกรรมซื้อขายแพลตฟอร์มในจีนได้ราบรื่น
2. เลือกเว็บไซต์ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ หาข้อมูลทางการตลาดเเละหาว่าเว็บไซต์ไหนที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณมากที่สุด ในเรื่องของผลิตภัณฑ์และตรงตามกลุ่มเป้าหมาย
3. หาหุ้นส่วนในประเทศจีน การมีหุ้นส่วนในประเทศจีนนั้นหมายถึงธุรกิจของคุณจะได้เข้าใจถึงความหลากหลายภายใต้แผ่นดินใหญ่นี้ และความเป็นจริงที่แตกต่างที่จะสามารถจัดการเเละปรับกลยุทธ์เพื่อจัดการธุรกิจได้
4. สร้างโซเซียลมีเดียของคุณขึ้นมา บทบาทโซเซียลมีเดียนั้นมีความสำคัญมากในจีนมากกว่าฝั่งตะวันตก สำหรับเหตุผลนี้ก็มีมากพอที่จะมีเว็บไซต์ทางการในเว็บ Weibo, Little Red Book และ WeChat สำหรับธุรกิจของคุณ
5. สร้างเว็บไซต์จีน ข้อนี้สำคัญมากสำหรับลูกค้าชาวจีนที่จะสร้างความเชื่อมั่นในธุรกิจของคุณ

ติดต่อสอบถามผ่านเพิ่มเติมผ่าน Line แชท